About us
ครู P'Mint เกียรตินิยมอันดับ 1 อักษรศาสตร์ จุฬาฯ
ประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษมากกว่า 12 ปี
-
English Gifted เตรียมอุดมฯ #69
-
TOEIC 990/990
-
IELTS overall 8.5/9
-
SAT verbal 750/800
-
Lively, Creative, Dog lover, Hard-working
ครู P'Muew เกียรตินิยมอันดับ 1 เศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ
ประสบการณ์การสอน SAT, IGCSE, IB มากกว่า 12 ปี
-
เตรียมอุดมฯ #68
-
SAT Math 800/800 (1st attempt)
-
SAT Math level 1, level 2 800/800 (1st attempt)
-
GPAX 3.88 Econ Chula
-
Well-Organized, Efficient, Caring, Funny Introvert
FAQ | คำถามที่พบบ่อย
ทำไมต้องเรียน SAT Eng กับพี่มิ้นท์?
ทำไมต้องเรียน SAT Math กับพี่มิว?
ทำไมต้องเรียน Vocab กับพี่มิ้นท์?
InterBoosters แตกต่างอย่างไร
InterBoosters สถาบันที่เน้นการสอนแบบเป็นระบบ ผนวกความรู้ระดับ intermediate-advanced เข้ากับความคิดสร้างสรรค์ (การ์ตูน เพลง วิดิโอ เป็นต้น) เราเชี่ยวชาญการสอนข้อสอบระดับสูง (SAT IELTS) ให้เป็นหลักสูตรย่อยง่ายสำหรับเด็กไทย ด้วยประสบการณ์การสอนเกือบ 10 ปี สถาบันเราคิดค้น material การสอนเองที่การันตีความพึงพอใจจากลูกศิษย์หลายรุ่นว่าได้ผลทั้งในข้อสอบ และชีวิตจริง
เรียน SAT ที่ไหนดี
สถาบัน InterBoosters เชี่ยวชาญการสอนข้อสอบ SAT เป็นพิเศษ (เราจึงเปิดแค่คอร์ส SAT กับ IELTS แค่สองอย่างไงจ้ะ) ควบคุมคุณภาพการสอนได้อย่างดีโดยพี่มิว (Math Part) และพี่มิ้น (English Part) สำหรับพาร์ทmathเราเน้นการสอนกลุ่มเล็ก เพราะเราเข้าใจว่าการเรียนกลุ่มใหญ่ถาม-ตอบไม่สะดวก การเรียนเลขแบบห้องใหญ่มักทำให้น้องๆหลุดจากที่ครูสอนและเสียตังค์ฟรี พี่มิวมีการจัดเรียงข้อสอบไล่ระดับด้วยตนเองทุกหน้า มั่นใจได้ในความเข้าใจที่จะการันตีคะแนน 650+ได้ในเวลาไม่นาน สำหรับพาร์ทอังกฤษ SATสุดหิน พี่มิ้นถนัดการซิงค์คำศัพท์ยากจำนวนมากเข้าหัวน้องๆด้วยวิธี mnemonic อันหลากหลายของนาง (ทั้งรูป ทั้งเพลง ทั้งเกม ทั้งวิดิโอ) โดยสรุปในคอร์สน้องๆจะได้มาตะลุยโจทย์จำนวนมากด้วยกัน พร้อมเทคนิคจำ+ทิปส์การทำข้อสอบที่ไม่มีสอนที่อื่นแน่นอน รับรองไม่เบื่อ และเก่งขึ้นทั้งในข้อสอบและชีวิตจริง (เน้นมากกับชีวิตจริง 555)
เรียน IELTS ที่ไหนดี
สถาบันของเราสอนโดยครูที่มีประสบการณ์สอบ IELTS overall band 8.5 จึงมั่นใจได้ด้วยความรู้และสำเนียงเทียบเท่า native speakers อีกทั้งด้วยประสบการณ์การสอนเกือบสิบปี เราจึงเข้าใจจุดอ่อนของคนไทยทั้ง 4 skills (writing, speaking, reading, listening) เรามีการคิดค้นเทคนิคจำศัพท์ออกบ่อยใน ielts ที่จำได้จริงและจำได้นาน และเทคนิคทำ writing speaking แบบสำเร็จรูปไม่ซ้ำใคร เพราะเราได้รวบรวมข้อมูล HOT tips. tricks. techniques. จากหนังสือ IELTS ชื่อดังหลายเล่มและเว็ปไซต์อีกมากมายออกมาเป็น material ย่อยง่ายๆให้น้องๆจำและฝึกฝนไปด้วยกัน (ที่สำคัญครูใจดีมากมาย สามารถแนะนำวิธีต่างๆเพื่อให้นักเรียนสามารถต่อยอดความรู้ทางภาษาอังกฤษให้เก่งเทียบเท่า native speakers ได้)
เรียน Vocab ที่ไหนดี
น้องๆม.ปลายและผู้ที่ต้องสอบข้อสอบระดับกลาง-สูงอย่าง IELTS SAT TOEFL CUATT CUTEP TUGET ควรเรียนคอร์สศัพท์กับเราอย่างยิ่ง เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำ reading ได้คะแนนสูง (พาร์ทนี้มีทุกข้อสอบ) และนำไปประยุกต์กับskills อื่นๆได้ทั้งหมดทั้ง speaking, writing, listening โดยเรามีการทำ material การจำศัพท์เองทั้งหมด มั่นใจว่าไม่ว่าผู้เรียนจะมีพื้นฐานแค่ไหนสามารถมาท่องจำศัพท์มากกว่า 4,000 คำกับเราได้ง่ายๆ จำได้เนิ่นนาน แถมที่สำคัญใช้เป็นอีกต่างหาก(เน้นการใช้งานจ้ะ ไม่ใช่ท่องความหมายอย่างเดียว) นอกจากคำศัพท์แล้วเรายังมีการแทรกสอนสำนวนฝรั่ง รากศัพท์ และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศัพท์ รวบรวมจากตำราภาษาอังกฤษมากกว่า 10 เล่มมาเล่าให้ฟัง คอร์สนี้เป็นคอร์สที่ positive feedback 100% จริงๆจึงอยากแนะนำ
สมัครเรียนอย่างไร
น้องๆสามารถสมัครเรียนคอร์สต่างๆได้ 2 ช่องทาง
1. สมัครกับทางสถาบันโดยตรงที่ตึกปิยะเพลส หลังสวน @ BTS ชิดลม ทุกวันจันทร์-เสาร์ 10.00-18.30น. **รบกวนนัดหมายล่วงหน้า
2. สมัครผ่านทาง Line @interboosters
*น้องๆสามารถเข้ามาทำข้อสอบวัดระดับได้ที่สถาบัน หรือแจ้งความประสงค์ให้ส่งแบบทดสอบผ่านทาง Line ก็ได้
FAQ | Vocab Courses
1. ทำไมต้องเรียนคอร์สคำศัพท์ ?
คำศัพท์เป็นส่วนประกอบหลักของภาษาที่สำคัญที่สุด ไม่รู้ศัพท์ = ฟัง/พูด/อ่าน/เขียนไม่รู้เรื่องแน่นอน แต่การท่องศัพท์เองที่บ้านใช้เวลาหลายปีกว่าจะถึงจุดที่รู้ครอบคลุมการใช้ศัพท์ระดับที่ฝรั่งใช้จริง เด็กไทยจำนวนมากไม่เก่งภาษา เพราะไม่ชอบท่องศัพท์ หรือไม่รู้วิธีท่องที่ถูกต้องจึงจำไม่ได้สักที คนไทยจำนวนมากมีความเข้าใจผิดเรื่องคำศัพท์ยาก = ไม่ได้ใช้ จึงไม่เก่งอังกฤษสักที เท่าที่สอนมานักเรียนอินเตอร์เข้าใจความสำคัญของคำศัพท์เพราะเขาเจอคำศัพท์ยากๆทุกวัน จึงไม่มีอคติกับศัพท์ยาก แต่นักเรียนไทยจะบ่นเวลาเจอศัพท์ยากแล้วคิดว่าคำเหล่านี้ท่องไปก็คงไม่ได้ใช้ คงต้องถามตัวเองว่าเรียนภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไร ถ้าเรียนเพื่อสอบให้ผ่านเท่านั้น พี่คิดว่ามันแคบไป แต่ถ้าเรียนเพื่อให้ตัวเองใช้ได้จริง อ่านบทความความรู้ทางอินเตอร์เน็ตได้ อ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ ก็มาสู้ไปด้วยกัน พี่มีวิธีช่วยมากมาย
2. Interboosters แตกต่างอย่างไร ?
นอกจากห้องเรียนห้องเล็กและอบอุ่น (ไม่เกิน 15 คน) Interboosters เชื่อในการเรียนรู้ที่สนุกและนักเรียนสนิทกัน เราจึงเน้น Interactive classes ที่น้องๆทุกคนจะมีโอกาสได้ตอบคำถามและฝึกฝนการใช้คำศัพท์เพิ่ม ทำให้สมองได้ทำงานตลอด และไม่ต้องกลับไปท่องที่บ้านมากนัก จำได้ครบจบในห้อง แต่ที่สถาบัน Interboosters เองก็เป็นคลาสที่อัดแน่นด้วยความรู้ไม่แพ้โรงเรียนกวดวิชาที่อื่นๆ เพราะคุณครูจะคิดทริคจำทุกคำมาล่วงหน้า พร้อมตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษช่วยจำ ประหยัดเวลาท่องจำหลายๆรอบ เพราะที่นี่เราท่องรอบเดียวอยู่หมัด แถมน้องๆได้เรียนภาษาอังกฤษด้วยประโยคภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ด้วยคำไทยที่ทำให้ต้องคิดกลับไปกลับมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
3. จำเป็นต้องเรียนคอร์สแรกก่อนไปคอร์สสองไหม ?
หากน้องเรียนก่อนย่อมดีกว่า เพราะเวลาเจอศัพท์เก่าจะมีการ refer ไปถึงคำศัพท์ที่เคยสอนในคอร์สแรกเพื่อ remind ให้น้องๆที่เคยเรียนจำได้ แต่เนื่องจากคอร์สศัพท์แต่ละคอร์สเป็นการสอนคำศัพท์คนละเซ็ตกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีปัญหาเวลาเรียน เหตุผลที่ควรเรียนเมื่อเวลาสะดวกที่จะลงเรียนได้เพราะคอร์สแต่ละคอร์สเปิดไม่บ่อย (บางคอร์สเปิดแค่ปีละ 2 ครั้ง บางคอร์สเปิดสดไม่กี่รอบแล้วจะเปลี่ยนทำเป็นคอร์สออนไลน์เท่านั้นเพราะครูสอนมีเวลาจำกัด) และเราจัดคอร์สให้น้องเรียนต่อเนื่องเพื่อองค์ความรู้พื้นฐานครบทุกด้านด้วย หากขาดไปหนึ่งคอร์สพี่คาดว่าน้องๆน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5-10 ปีในการจำและเรียนรู้วิธีใช้ด้วยตัวเองอย่างที่พี่ทำมา
4. จะทราบได้ไงว่าตัวเองเหมาะกับคอร์สไหน ?
มีหลายวิธีด้วยกัน
1. ถ้าต้องการเลือกเอง สามารถมาดูหนังสือที่สถาบัน แต่อาจต้องนัดมาล่วงหน้านะจ๊ะ
2. ทำแบบทดสอบ placement test ด้วยการขอแบบทดสอบทางไลน์ id: interboosters แล้วพี่จะตรวจพร้อมฟีดแบคไปให้ว่าระดับความรู้ของเราสามารถเรียนคอร์สไหนบ้างจึงจะเหมาะสม
3. แจ้งเป้าหมาย คะแนนที่เคยสอบได้มาที่พี่ พี่สามารถประเมินได้จากคะแนนสอบว่าเหมาะกับคลาสเรียนไหน
5. อยากเรียน Grammar ไปพร้อมๆกับ Vocab ?
ไม่มีปัญหา เราก็มีคอร์สแกรมม่า(ที่อาจเปิดคอร์สสดไม่บ่อยนัก) แต่เพราะพี่เชื่อในการเรียนภาษาแบบเด็กอินเตอร์ นั่นคือการ experience ภาษาด้วยการเห็น การอ่าน การฟังก่อน แล้วค่อยท่องกฎแกรมม่าตามไปทีหลัง เท่าที่พี่เรียนภาษามาหลายภาษา นั่นคือวิธีการที่ดีกว่าการท่องกฎก่อนแล้วค่อยฝึกใช้ ดังนั้นพี่จึงแนะนำให้เรียนคอร์ส vocab "ก่อน" เรียนคอร์ส grammar เพราะในคอร์ส vocab จะเป็นการให้น้องได้ experience ประโยคและคำศัพท์ใหม่ๆจำนวนมากก่อนที่น้องจะท่องแกรมม่าเพื่อการสอบและการใช้ให้ถูกต้อง พี่สังเกตเห็นนักเรียนที่ skip ไปท่องแกรมม่าก่อนอาจจะเก่งข้อสอบแต่สุดท้ายก็ใช้ภาษาไม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีกรอบ grammar ครอบไว้อยู่ หรือรู้กฎแกรมม่าระดับ advanced แต่แต่งประโยคพื้นฐานยังไม่ได้ ซึ่งพี่ไม่เห็นด้วยอย่างมาก ฉะนั้น make sure ว่าตัวเองไม่ได้ข้ามขั้นเกินไปด้วยนะจ้ะ