IELTS Paper - Based Test
VS
IELTS Computer - Delivered Test
สำหรับน้องๆที่ต้องใช้คะแนน IELTS ในการสอบเข้าคณะในฝันของเรา หรืออยากมีคะแนนปังๆไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรสอบ IELTS แบบไหนดี? IELTS แบบ computer กับ IELTS แบบกระดาษต่างกันไหมนะ? มีผลอะไรกับคะแนนหรือเปล่า? สอบ IELTS แบบไหนเหมาะกับเรามากกว่า? ทุกคำถามที่สงสัย วันนี้มีคำตอบให้แบบชัดกระจ่างแจ้งไปเลยยย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
IELTS แบบ Computer กับ IELTS แบบกระดาษเหมือนกันตรงไหนบ้าง?
IELTS แบบ Computer กับ IELTS แบบกระดาษเหมือนกันตรงไหนบ้าง?
เนื้อหาที่ใช้สอบ ระดับความยากง่ายเท่ากัน
ประเภทคำถามแบบเดียวกัน
เวลาที่ใช้สอบเท่ากัน
Band คะแนน เกณฑ์การคิดคะแนนเหมือนกัน
→ ในส่วนของพาร์ท IELTS Speaking ทั้งแบบคอมพิวเตอร์และแบบกระดาษก็สอบกับ IELTS Examiner ตัวจริงแบบตัวต่อตัวเหมือนกัน
IELTS แบบ Computer กับ IELTS แบบกระดาษต่างกันยังไง?
IELTS แบบ Computer กับ IELTS แบบกระดาษต่างกันยังไง?
ศูนย์สอบ
British Council และ IDP การสอบแบบคอมพิวเตอร์ยังมีไม่มาก มีเปิดสอบแค่ที่กรุงเทพและเชียงใหม่เท่านั้น ในจังหวัดอื่นๆจะเป็นข้อสอบแบบกระดาษ
โดยรวมแล้วทั้งที่ IDP และ British Council นั้น IELTS Paper - Based Test มีครอบคลุมทุกศูนย์สอบในทุกจังหวัดที่จัดสอบ
แต่ IELTS Computer - Delivered Test จะมีบางที่ แค่ในศูนย์สอบที่กำหนดเท่านั้น
ผลคะแนนสอบ
สอบ IELTS แบบคอมพิวเตอร์ผลคะแนนออกเร็วกว่า คือ จะได้ผลสอบภายใน 3-5 วัน
สอบ IELTS แบบกระดาษ ได้ผลสอบภายใน 13 วัน
ค่าสอบ IELTS
จากการอัปเดตข้อมูลล่าสุดเดือนมกราคม 2565
ศูนย์สอบ British Council ค่าสอบ IELTS ทั้งแบบ computer และ แบบกระดาษมีราคาเท่ากัน คือ 6,900 บาท
แต่ศูนย์สอบ IDP มีการปรับค่าสอบ IELTS ทั้งแบบ computer และ แบบกระดาษ เป็น 7,100 บาท (จากเดิม 6,900 บาท)
(ทาง British Council ยังไม่มีประกาศปรับราคาสอบ IELTS ในปี 2565 ต้องรอดูกันต่อไป)
เช็คตารางวันเวลาที่เปิดสอบ IELTS ของศูนย์สอบ IDP และรูปแบบการสอบทั้งแบบคอมและแบบกระดาษ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ IDP >> https://www.ielts.idp.co.th/what_is_ielts_th.aspx
เช็คตารางวันเวลาที่เปิดสอบ IELTS ของศูนย์สอบ British Council และรูปแบบการสอบทั้งแบบคอมและแบบกระดาษ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ British Council >> https://www.britishcouncil.or.th/exam/ielts/dates-fees-locations
เมื่อน้องๆรู้ความเหมือนและความต่างของ IELTS แบบคอมพิวเตอร์และ IELTS แบบกระดาษในภาพรวมกันแล้ว เรามาเจาะดูกันทีละ พาร์ทดีกว่า ว่าการสอบ IELTS 2 แบบนี้มีความต่างกันยังไงบ้างนะ? สอบ IELTS แบบไหนน่าจะช่วยให้เราสอบได้สะดวกและถนัดมือเรามากกว่ากัน
เปรียบเทียบพาร์ท IELTS Listening
ข้อดีของการสอบ IELTS Listening แบบ computer
มีกระดาษทดให้จดโน๊ตตอนสอบฟัง
ในระหว่างการฟัง สามารถพิมพ์ตอบหรือกดเลือกคำตอบในคอมได้เลย โดยจะมีการบอกความคืบหน้าของการทำข้อสอบด้วยว่าตอนนี้ทำไปแล้วกี่ข้อ และเหลือข้อที่ยังไม่ทำกี่ข้อ
เมื่อเสียงคำถามทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว จะมีเวลาเพียง 2 นาทีในการเช็คคำตอบ เมื่อหมดเวลาหน้าจอจะดับลงทันที
ข้อดีของการสอบ IELTS Listening แบบกระดาษ
จดโน๊ตลงในกระดาษข้อสอบได้เลย
เมื่อเสียงคำถามทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว จะมีเวลา 10 นาทีในการตอบคำตอบที่โน้ตไว้ในกระดาษคำถาม ลงในกระดาษคำตอบ และถ้าเวลาเหลือก็ทวนคำตอบได้อีกก่อนส่งข้อสอบ
เปรียบเทียบพาร์ท IELTS Reading
ข้อดีของการสอบ IELTS Reading แบบ computer
มีกระดาษทดให้จดโน๊ตแยก ส่วนบนหน้าจอคอมก็สามารถเน้นข้อความส่วนที่เราคิดว่าเป็น keyword ได้ แต่จะพิมพ์หรือจดโน้ตในหน้าเนื้อหา passage ไม่ได้ ดังนั้นใครที่ชอบจดโน้ตระหว่าง passage อาจไม่ถนัดกับการสอบแบบนี้
สามารถใช้คีย์ลัดบนแป้นพิมพ์กด copy & paste ข้อความส่วนที่เราคิดว่าเป็นคำตอบจาก passage ได้เลย
มีจับเวลา ให้เห็นตัวเลขเวลาที่เหลือชัดเจนบนหน้าจอคอม
เมื่อหมดเวลาสอบ หน้าจอจะดับลงทันที
ข้อดีของการสอบ IELTS Reading แบบกระดาษ
จดโน๊ตลงในกระดาษข้อสอบได้เลย ขีดเส้นใต้ โยงเส้น เขียนข้อมูลอะไรได้หมด
เรื่องการจับเวลา ผู้คุมสอบจะคอยบอกเวลาที่เหลือในการทำข้อสอบให้เป็นระยะๆ
ข้อเสียคือ ถ้า passage และคำถามอยู่คนละหน้ากันจะต้องพลิกกระดาษไปมา อาจทำให้เสียเวลาตอนทำข้อสอบได้
เปรียบเทียบพาร์ท IELTS Writing
ข้อดีของการสอบ IELTS Writing แบบ computer
มีกระดาษทดให้จดโน๊ตแยก แต่ไม่สามารถเขียนหรือเน้นข้อความบนจอคอมได้
เหมาะกับคนที่มีลายมืออ่านยาก
เหมาะกับคนพิมพ์เร็ว ถนัดพิมพ์ และเวลาที่คิดประโยคอื่นๆขึ้นได้ทีหลัง ก็ไม่ต้องลบประโยคด้านหน้าออก สามารถพิมพ์แทรกได้เลย
มีระบบนับจำนวนคำให้อัตโนมัติ เวลาทำข้อสอบจะได้รู้ว่าเราเขียนไปได้เท่าไรแล้วโดยที่ไม่ต้องมานับเอง
เมื่อเวลาสอบสิ้นสุดลง หน้าจอจะดับลงทันที
ข้อดีของการสอบ IELTS Writing แบบกระดาษ
วางแผนการเขียนลงในกระดาษข้อสอบได้เลย ขีดเส้นใต้ วงจุดเปรียบเทียบต่างๆ ของรูปภาพหรือกราฟได้หมด
สำหรับน้องที่รู้ตัวว่าลายมืออ่านยากต้องระวัง ต้องพยายามบรรจงเขียนเพื่อให้มั่นใจว่า IELTS Examiner จะอ่านคำตอบเราออก
ต้องนับจำนวนคำที่เขียนเอง เพราะไม่มีระบบนับจำนวนคำให้ (Writing Task 1 อย่างน้อย 150 คำ และ Writing Task 2 อย่างน้อย 250 คำ)
ผู้คุมสอบจะคอยบอกเวลาที่เหลือในการทำข้อสอบให้เป็นระยะๆ
สอบ IELTS แบบไหนดี?
IELTS Paper-Based Test และ IELTS Computer-Delivered Test มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน
สอบ IELTS แบบไหนดี?
IELTS Paper-Based test จะเหมาะกับน้องถ้าน้อง..
เป็นคนที่พิมพ์ช้า พิมพ์ผิดบ่อย
ชอบจดโน้ตลงบนกระดาษข้อสอบ
เสียสมาธิจากเสียงรบกวนได้ง่าย (เพราะในพาร์ท writing ถ้าสอบแบบคอม เสียงแป้นพิมพ์ของผู้สอบคนอื่นอาจรบกวนเราได้)
IELTS Computer-Delivered test จะเหมาะกับน้องถ้าน้อง..
ต้องการได้ผลสอบ IELTS แบบด่วนจี๋
พิมพ์เร็ว ถนัดใช้คอม
ลายมืออ่านยาก (ถ้าคนตรวจอ่านไม่ออก / อ่านผิด อาจทำให้ถูกหักคะแนนได้)
จ้องหน้าจอคอมนานๆได้ไม่มีปัญหา
หวังว่าบทความนี้จะทำให้น้องๆเห็นภาพความแตกต่างของการสอบ IELTS แบบกระดาษ VS แบบคอมพิวเตอร์ เพื่อจะได้เลือกสอบ IELTS แบบที่เหมาะกับน้องที่สุดนะจ๊ะ และไม่ว่าน้องจะเลือกสอบแบบไหน น้องสามารถมาเก็บเทคนิคลับไปอัพคะแนน IELTS กับพี่มิ้น IELTS 8.5 ได้ในคอร์สออนไลน์รูปแบบ Hybrid & Interactive! ขอแอบบอกว่าในพาร์ท IELTS Speaking น้องๆจะได้รู้เคล็ดลับการพูดยังไงให้ได้คะแนนสูงจาก IELTS examiners ตัวจริงด้วย! มาเตรียมสอบ IELTS เพิ่มความมั่นใจ เพิ่มกลยุทธ์อัพคะแนน อัดความรู้แน่นก่อนไปสอบจริงกับ Interboosters กัน รับรองว่าน้องๆจะเรียนสนุก เรียนเข้าใจ ทริคเพียบ คะแนนพุ่งแน่นอน :D
ติว IELTS ครบ 4skills กับพี่มิ้น IELTS 8.5 + Examiners >> https://www.interboosters.com/ieltsonline
ดูรายละเอียดคอร์สเรียนทั้งหมดได้ที่ https://www.interboosters.com/courses
Commentaires